Skip to content
New issue

Have a question about this project? Sign up for a free GitHub account to open an issue and contact its maintainers and the community.

By clicking “Sign up for GitHub”, you agree to our terms of service and privacy statement. We’ll occasionally send you account related emails.

Already on GitHub? Sign in to your account

Add 0018.md #161

Open
wants to merge 5 commits into
base: master
Choose a base branch
from
Open
Changes from 1 commit
Commits
File filter

Filter by extension

Filter by extension

Conversations
Failed to load comments.
Loading
Jump to
Jump to file
Failed to load files.
Loading
Diff view
Diff view
58 changes: 58 additions & 0 deletions md/0018.md
Original file line number Diff line number Diff line change
@@ -0,0 +1,58 @@
### Solution
วิธีทำข้อนี้คือให้สร้าง Array ที่มีขนาด $N$ ช่อง โดยแต่ละช่องจะมีค่า $0$ กับ $1$ เท่านั้น (ถ้า Array ช่องที่ $x$ มีค่าเท่ากับ $0$ แปลว่าเลข $x+1$ ยังไม่ถูกขีดฆ่า แต่ถ้าเป็น $1$ แปลว่าถูกขีดฆ่าแล้ว)

ให้ $c$ นับว่าขีดฆ่าไปแล้วกี่ครั้ง และ $j$ หมายถึงตัวเลขน้อยสุดที่ยังไม่ถูกขีดฆ่า

เนื่องจากจำนวนที่น้อยที่สุดที่ยังไม่ถูกขีดฆ่าต้องเป็นจำนวนเฉพาะอยู่แล้ว เพราะหลังจากขีดฆ่าไป จำนวนที่ไม่ใช่จำนวนเฉพาะที่มาก่อนจำนวนน้อยที่สุดที่ยังไม่ถูกขีดฆ่า ก็จะถูกขีดฆ่าไป เช่น $2$, $3$, $4$, $5$, $6$, $7$ หลังจากเริ่มขีดฆ่าพหุคูณของ $2$ จะเหลือเลข $3$, $5$, $6$, $7$ ขีดฆ่าพหุคูณของ $3$ จะเหลือ $5$, $7$ ขีดฆ่าพหุคูณของ $5$ จะเหลือเลข $7$ เป็นตัวสุดท้าย จะเห็นได้ว่าจำนวนที่น้อยที่สุดที่ยังไม่ถูกขีดฆ่า จะเป็นจำนวนเฉพาะเสมอ ดังนั้นไม่ต้องสนใจประโยคที่ว่า "ให้จำนวนนั้นคือ $P$ ( $P$ คือจำนวนเฉพาะ )"

**ขั้นตอนการทำงาน**

1. ถ้า Array ช่องที่ $j-1$ มีค่าเท่ากับ $1$ ให้ข้ามไปทำขั้นตอนที่ 6
2. ไล่จำนวนที่เป็นพหุคูณของ $j$ ที่น้อยกว่าหรือเท่ากับ $N$ และให้เลขนั้นคือเลข $i$ แล้วทำขั้นตอนที่ 2 ถึง 4 ให้ครบทุกตัว
3. ถ้า Array ช่องที่ $i-1$ มีค่าเท่ากับ $1$ ให้ $i$ มีค่าเพิ่มขึ้นเป็นเป็นพหุคูณของ $j$ ตัวถัดไป
4. ให้ $c$ มีค่าเพิ่มขึ้น $1$ และ กำหนดให้ค่าของ Array ช่องที่ $i-1$ มีค่าเท่ากับ $1$
5. ถ้า $c$ มีค่าเท่ากับ $K$ ให้ส่งออกค่า $i$ แล้วจบการทำงาน
6. เพิ่มค่า $j$ ให้มากขึ้น $1$ แล้วกลับไปทำขั้นตอนที่ 1

**ตัวอย่างการทำงานของ $N = 7$ (ค่าในตารางแสดงถึงลำดับที่ถูกขีดฆ่า)**

| รอบที่\Array ช่องที่ (เลข) | **0 (1)** | **1 (2)** | **2 (3)** | **3 (4)** | **4 (5)** | **5 (6)** | **6 (7)** |
|:---------------------:|:---------:|:---------:|:---------:|:---------:|:---------:|:---------:|:---------:|
| **1** | 0 | 1 | 0 | 2 | 0 | 3 | 0 |
| **2** | 0 | 1 | 4 | 2 | 0 | 3 | 0 |
| **3** | 0 | 1 | 4 | 2 | 5 | 3 | 0 |
| **4** | 0 | 1 | 4 | 2 | 5 | 3 | 7 |


### Code
```cpp
#include <iostream>
#include <vector>

using namespace std;

int main() {
int n, k;
cin >> n >> k;
vector<int> alr(n);

int c = 0, j = 2;
while (c != k) {
if (!alr[j - 1]) {
for (int i = j; i <= n; i += j) {
if (!alr[i - 1]) {
c++;
alr[i - 1] = 1;
if (c == k) {
cout << i;
return 0;
}
}
}
}
j++;
}
return 0;
}

```